2331 น.
ทีวีพักนี้แต่ละช่อง ต่างพร้อมกันนำเสนอบทขบวนเพื่อแสดงการถวายอาลัย ต่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ จากส่วนต่างๆของแต่ละจังหว้ดเป็นบรรยากาศที่หลากหลายกันไป แม้ขณะเขียนบันทึกอยู่นี่ มีรายงายเป็นสกู๊ป สารคดีนำเสนอกันอย่างต่อเนื่อง ตูข้ายังมะนอน ยังมะง่วงเลยเป็นผุดลุกผุดนั่งอยู่หน้าจอคอมพ์ฯที่เปิดเป็นหน้าจอทีวีพวกน้องๆที่ทำงานหยุดพักกันไปแล้วเมื่อสี่ทุ่มตรงเปิดระบบ ทำงานกันอีกก็ หกโมงเช้า ตูข้ากำหนดแผนการทำงานให้พวกน้องๆเขาแบบนั้น เพื่อนร่วมงานทุกคนก็โอเคแหละร่วมมือร่วมใจกันทำงาน ขยันขันแข็งกันดี เชื่อฟังผู้นำกลุ่มอย่างใส่ใจ ก็ดีแหละน้องๆเอ๋ยทำงานจะมีระบบและรู้การอันใดควรไม่ควร เหมาะไม่เหมาะต้องฟังผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ จะได้แบบพิมพ์ที่เป็นไกด์ เป็นบทนำร่องต่อไปภายหน้า ซึ่งการอันใดที่พวกน้องๆจะพบเจอทั้งปัญหาอุปสรรคขวากหนามก็จะได้นำเหตุนำประสบการณ์ ณ วันนี้ไปปรับใช้กับบริบทต่อไปในอนาคตบ้างแหละ คุยกันทางเอ็ม ก๊ะหนุ่มเอ ..... เอ้ เรื่องการเข้าสอบข้อธรรมะ ของสำนักวัดแห่งหนึ่ง ข่าวว่าเป็นการสอบแบบให้โอเพ่นบุ๊ค ข้อสอบร้อยข้อ มีทั้งอัตนัย / ปรนัย ฮือออออ .......... การวัดการวานี่โดยส่วนตัวแล้วยังนับว่าห่างกันอยู่นะ ทางนิตินัย ระหว่างตูข้าก๊ะข้อธรรมะแห่งศาสนาแต่ ......... ก็เอาน่ะ เพื่อแสดงตนตัวเป็นศาสนิกที่ภักดีมั่นคง ตรง ต่อศาสนาก็ต้องไปร่วมงานกันแหละ งานการเข้าสอบนี่ถูกบอกกำกับมา ให้ไปร่วมเข้าสอบให้ได้โดยท่านบิ๊กบอสโดยกรง .............. ก็ไปแหละ ขอรับ
มี สส.หลายคนโดนใบเหลือง ส่วนใหญ่จากทางอีสาน รองไปทางเหนือ อีสานที่ดังๆน่ะที่บุรีรัมย์ มีขบวนการอุ้มพยานไปแล้วสองราย เป็นข่าวอยู่เกรียวกราว ยังตามหาตัวสองพยานนั้นไม่ได้เลย ดูบรรยา กาศไม่น่า ไว้วางใจในระบบราชการงานรักษาความปลอดภัยของพยานเอาเลย งานการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่แน่ชัดเลย หลังวันเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 แล้วมาประจวบกับการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เมื่อต้นเดือนมกราคม( 2 มกราคม 2551 เวลา 02.54 น.) เลยเลื่อนงานการจัดตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่เอาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว เพื่อถวายการอาลัย ต่อเจ้าฟ้าผู้สิ้นพระชนม์ แต่ข่าวทีวีก็นำเสนอความเคลื่อนไหวแวดวงนักการเมือง ฝ่ายสส. สอบตก ฝ่ายว่าที่ สส. ทั้งฟ้องศาล ฟ้อง กกต. ฟ้องสื่อมวลชน นัวเนียอีรุง ตุงนังกันเอาการอยู่ นี่หลังบรรยากาศถวายการไว้อาลัยผ่านไปแล้ว มะอยากนึกเลย .............. ท่าจะออกไปทางดุเดือดเอาการแหละ สองพรรคใหญ่ที่จ้องกัน พลังประชาชนฝ่ายเสียงข้างมาก และที่รองลงไปพรรคประชาธิปัตย์ สมัคร-อภิสิทธิ์
" ........... ก็เมื่อผ่านช่วงระยะเวลาการไว้อาลัยแล้ว จะมีการพูดคุยกัน ครับ "
คุณสุวิทย์ คุณกิตติ หน.พรรคเพื่อแผ่นดินให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โน่นแหละหลังวันที่ 10 มกราคม ได้รู้กันว่าโฉมหน้ารัฐบาลชุดใหม่จะออกลูกผสมมาพัธุ์ไหน ?ข่าว กระแหนะ กระแหนท่านบรรหาร ศิลปอาชา ผู้หน.พรรคชาติไทย ว่าเป็นพรรค "โคตรปลาไหล" ยังเข้มข้นเด็ดเดี่ยว ทั้งจากสิ่งพิมพ์/โทรทัศน์/วิทยุ โดยนัยยะว่าเป็นตัวแปรที่พร้อมจะลื่นไหลไปได้ทุกที่ทุกหล่มเลน ตมทำนองนั้น ฝ่ายการเมืองต่างประเทศก็เข้มเดือดกันเอาการ เฉพาะที่ 'เมกานั่นเห็นข่าวเขาตั้งหัวสกู๊ปไว้หน้าสนใจว่า "อาจจะเป็นครั้งแรกที่ 'เมกาจะได้ประธานาธิบดีเป็นหญิง และอาจจะป็นครั้งแรกที่ 'เมกาจะมีประธานาธิบดีเป็นคนผิวสี" ก็ว่ากันไปแหละเฉพาะผู้เป็นคอการเมืองนี่ได้ลุ้นกันแบบหลับไมได้เลยแหละ ทั้งในและนอกประเทศ เป็นข่าวเด็ดเลยล่ะ
8 มกราคม 2551
0533 น.
" ....... อาตมาต้องการทำงานทางด้านนี้ แบบเน้นหนักลึกชัดเลย. "
พระหนุ่มวัยใสนาม ว.วชิรเมธี จากวัดเบญจฯแถลงธรรม ในหัวข้อเรื่องงานการรณรงค์การ " ให้ " จากฝ่ายพระ(บ้าง)
" ....... โดยส่วนใหญ่ ที่ผ่านๆมาพระจะเป็นฝ่ายรับมาซะมากกว่าอยากทำ สิ่งที่เป็นผู้"ให้"โดยพระบ้าง "
พระหนุ่มเมืองเจียงฮาย ท่านว่าของท่าน
" ....... โดยจะทำ "ให้" ให้เป็นรูปธรรมที่เห็นจับต้องสัมผัสได้ ตอนนี้ทำสำนักวัดเอาไว้สองแห่งแล้ว "
อนุมานว่าจะเสริมส่งงานขับเคลื่อนเรื่อง วิมุตติยาลัย ให้เด่นชัดเป็นรูปธรรม ท่านจะทำงานทาง เสรีภาพ ในการเข้าถึงพุทธศาสนาของเพศทั้งบุรุษและสตรีอย่างให้เท่าเทียมเสมอภาคกัน
" เหตุมาจาก อาจารย์ผู้สอนหนังสือจาก ม.ดังของอังกฤษไปประชุมที่ อเมริกามีการถามในที่ประชุมกลางว่า การให้เข้าถึงซึ่งศาสนาของสตรี ทางพุทธมีขบวนวิธีอย่างไรบ้าง ? ....... แล้วก็ไม่มีคำตอบในที่ประชุมนั้น ทำให้ท่านผู้นั้นต้องกลับไปขบคิด ขับเคลื่อน กรณีนี้อย่างเต็มที่........... "
ท่านพระหนุ่ม ท่านแถลงธรรมบรรยายของท่าน พักนี้ดาวรุ่งทางฝ่ายสงฆ์มี 2 รูป มีท่านพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว. วชิรเมธี) แล้วก็พระมหาสมปอง ฉายา ตาลปุตฺโต นามสกุล นครไธสง แห่งวัดสร้อยทอง (พระอารามหลวง) แขวง/เขตบางซื่อ เป็นพระนักเทศน์แนวเดิม แต่หนุ่มใหม่วัยใสปิ๊ง .! กว่าท่านหลวงพี่พยอม กัลยาโณผู้ต้นแบบ(ข้อนี้ อัตตูมองเอง)แห่งวัดสวนแก้ว เมืองนนท์
1126 น.
สองมื้อ สองครั้งต่อวันพอ ............ สำหรักการรับประทานอาหาร การกินในแต่ละวันและสำคัญต้องเป็นอาหารตรงจากแหล่งธรรมชาติ ที่ปลอดสารเคมีวิทยาศาสตร์ด้วย ข้าวกล้องน่ะหุงเตรียมไว้แล้วเพิ่มน้ำเยอะขึ้นกว่าการหุงข้าวขัดขาวทั่วไปหน่อย ให้เม็ดข้าวมันไม่รู้สึกสากแข็งปากลิ้น เวลาเคี้ยวก็ใจเย๊น เคี้ยวไปคำนึงนึกถึงบุญคุณผู้ปักดำนาเกี่ยวข้าวให้เราได้กินไปด้วย เป็นบุญเป็นคุณมากกับหมู่คนทำนาให้กินนี่ขาดหมู่ท่านเราเคี้ยวเหรียญกษาปณ์แลใบธนบัตรแทนเม็ดข้าวของพวกท่านไม่ได้ครับ กราบขอบพระคุณลูกหลานคนเกษตรฯอย่างตูข้ามิลืมคุณข้าวคุณน้ำดอกขอรับ มีชีวิตอยู่รอดได้ก็เพราะผลิตผลจากหมู่ท่าน
" .......... ในการกินข้าวปลาอาหารถ้าเรารู้จักคุณค่าอาหาร แค่ข้าวจานเดียวนั้น ถ้ากินเมื่อตอนโกรธ พอมีเรี่ยวแรงแล้วก็เอาเรี่ยวแรงจากอาหารนั้นไปยกพวกตีกัน ข้าวปลาอาหารนั้นก็กลายเป็นข้าวบาปไป แต่ว่าข้าวปลาอาหารจานเดียวกันนั้น กินเมื่อตอนจิตใจงาม พออิ่มแล้วก็เอาเรี่ยวแรงไปทำความดี ข้าวปลาอาหารนั้นก็กลายเป็นข้าวบุญไปไม่ใช่ข้าวบาป เหมือนจานที่แล้ว"
คำพระท่านว่า "พระภาวนาวิริยคุณ "จากรายการดีเอ็มซี หลวงพ่อตอบปัญหา กราบพระขอรับ
หุงไว้แต่ก่อนพระฉันท์เพลโน่น ข้าวกล้องกลิ่นโชยหอมรสเนื้อข้าวธรรมชาติ ห๊อม... !แบบกลิ่นข้าวสวยดั้งเดิมเคี้ยวใจเย๊นนน ....... นานๆ ได้รสหวานพอดีจากเมล็ดข้าวไม่ขัดลอกผิวเมล็ดให้เสียคุณข้าวแต่อย่างใด เออ แนะนั่งเขียนซะเพลินแหละ ถ้าจะหิวซะล่ะมั๊งเนี่ยะ วกหาหม้อข้าวหม้อแกงซาแล่วว ?
มาเด้อออออออออออ ........ มากิ๋นเข่า เหออ ๆ (ขอบคุณภาพจากชาวเว็ปด้วยกัน)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น