CHAAI RADIO


      
            

ท่านสมารถติดตาม ข่าวสั้นแบบ #ฉับพลันทันด่วน โดย ชาย ชัยภูมิได้ ทุกๆ 1 ชม. ทาง TV ดาวเทียม ตลอด 24 ชั่วโมง(สมาคมผู้สื่อข่าวอาชญากรรม การท่องเที่ยวและกีฬา).

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
<=กรุงเทพฯ,Thai <=อเมริกา, WashingtonDC <=รัสเซีย, Moscow <=เกียวโต,Japan

วันพุธที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

กินได้(Make your choice to eat)

-----------TAKOB photo by Internet.
3 พฤศจิกายน 2553 16.50 น. -----สิ่งที่กินๆเข้าไปในปากลงท้องในชีวิตประจำแต่ละวันนี่ ใครไม่รู้ชัดนัก ท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า“กินอะไรก็เป็นอย่างนั้นแหละ” ทำนองนั้น หรือไม่ก็ “พ่อแม่กินอย่างไรลูกก็เป็นอย่างนั้น” แถวแนวนี้แหละ เฉพาะตัวผู้เขียนเองน่ะตีความหมายแบบกรงๆว่าใผ๋กินของมีฤทธิ์ท้องอืด(ฝาด ..ฟ้าดดดดด .... ฝาดดดด.) ท้องก็จะอืดสามวันห้าวัน ท้องบวมอืดดดดด อึดอัด .... ! แต่ถ้าใผ๋กินของรุท้องไส้(เปรี้ยวจี๊ดดดดด.)ท้องก็จะได้พาเท้าเดินเหยาะย่าง เทียวเฝ้าแต่โถส้วมอยู่ตึ๊งวันคืนแล ประมาณ นั้นนัยยะความหมายที่ตีปัญหาอันว่าไว้น่ะ ก็เพราะว่ากระแสเรื่องกินอยู่ของประชาชนพลเมืองไทยเรายุคนี้มาแรง แรงใน รายละเอียดยิบย่อย ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วิตามินอาหารแปรรูปแบบแคปซูล ตัวเติมสารอาหาร พืชผักผลไม้ปลอดสารเคมี การกินแบบมังสวิรัตน์ กินเพียงวันละครั้งของผู้มีอายุเลยวัยกลางคนขึ้นไป ฯลฯ สารพัดสาระพันแต่เรื่องกิน กินแล้วก็กิน เพลงลูกทุ่งบางเพลงก็ยังมีร้องอยู่เลยว่า “กินทุกอย่างที่ขวางหน้า” “เขาเปิดตลอด24ชั่วโมงนะพี่” อ้าวเหรอ ............ อีกแล่ววว ...... โฮ๊ะไรนี่เหวยโลกเรา(และก็โดยเฉพาะโลกของผู้เขียน) มันจะอะไรกันนักกันหนาหนอ ยอมรับว่าเรื่องบางเรื่องสำหรับผู้เขียนเพิ่งทราบ เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี่เอง อย่างเช่นเรื่องร้านเน็ตร้านเกมส์น่ะท่านเปิดกันตลอด วันยันรุ่งคือไม่ปิดพัก นอนกันเลย นี่ยอมรับเพิ่งทราบเมื่อปีกลาย(2552) และนี่ก็สดๆร้อนข้อมูลล่าสุดคุณพี่คุณหรือคุณเพื่อนก็ประมาณนี้แหละ เอาเป็นว่าเรียกกันคุณพี่แท็กซี่ก็แล้วกัน บอกร้านขายอาหารการกินของฝรั่ง ยี่ห้อฝรั่งน่ะท่านไม่ปิดกันเปิดยัน สว่างพนักงาน ผลัด เปลี่ยน หมุนเวียนกันไปเข้ากะทำงานกันอืออออ โลกหนอโลก ....... ไม่ทันเลยจริงๆเรานี่ แล้วเปิดกันไว้ แบบนั้นมีเร๋อออ คนไปกิน? “อ๊ะ ..... พี่ไม่รู้อะไรเลย คนงี๊แน่นกันตรึมแหละผมขับรถผ่านแต่ละคืน” ................... โฮ๊ะ! มิเตอร์บอกราคาค่าโดยสารเขยิบเปลี่ยนตัวเลขในมุมมืดๆที่เก๋งหน้ารถ เป็น102 บาทแล้ว “พี่เห็นไหม๊ล่ะ ขนมปังน่ะมันเล่นเข้าคิวต่อแถวกันย๊าววว เลยแหละแต่ละวัน” ตกลงคุณพี่แท็กซี่แกก็เรียกเราพี่เหมือนก๊ะเรา --เรียกแกพี่ต่อพี่ “ผม ล่ะ งง .........นะดูเด๊ะก๊ะไก่ทอดน้ำมันใส่ผงกรอบๆ ที่ไม่มีรสใดๆเลย --ก๊ะขนมปังที่มันพากันออกโฆษณาสรรเสริญว่านุ่ม เนียนละมุนอะไรยังงั้น แล้วพวกก็ซื้อๆกัน กินและกินเหมือนก๊ะ จะชุบชีวิตให้มีพลัง..... !” ฮืออออออออ .................. “แต่อย่างผมนี่ ม่ายยล่ะจะกินเข้าไปได้ไง ....... รึจะเป็นเพราะผมจนฮึ?” รถไม่ค่อยติด แท็กซี่วิ่งไปเรื่อยยๆคุณพี่แท็กซี่แกหรี่เสียงวิทยุเบาลงซะจนเราอยากได้ยินเสียง “ก็ไม่ใช่นะผมว่า คงเพราะเรามันไม่คุ้นก๊ะอีร้านพรรค์นี้เขาแหละไอ้จะให้ไปซื้อกินน่ะไม่เคยคิดเอาเลยอ่ะพี่ .........” เหอออ ๆชนบทสมัยเด็กๆยายผมหุงข้าวพอแกรินน้ำหม้อข้าวที่เดือดปุดๆเพื่อจะดงให้ข้าวสวยสุก แกจะรินลงถ้วยตะไลกราไก่ แล้วหยิบเกลือป่นโรยๆซะหน่อย ให้เรานั่งเป่า เป่าแล้วเป่าเล่าลางทีก็นอนเป่าก็มี เป่าให้น้ำข้าวสวยเย็นแล้วก็ช้อนตักซดๆ .... แบบร้อนนิดอุ่นหน่อย อร่อยดีออก คงจะนั่นล่ะมั้งเรียกว่าขนม “อย่างครอบครัวผมนี่พี่ กินกันเป็นประจำ ก็น้ำพริกปลา ปลาทู ผักก็ผักข้างรั้วเดิมๆแหละยอดกระถิน ชะอมดอกแคบ้าน จะให้กิน แบบที่เขากินกันมันไม่อยู่ท้องน่ะพี่” เหอออ ๆพอกันแหละพี่เอ๋ย กินเหอะ ........... ต่างฝ่ายต่างกินตามรสตามที่นิยมกันเน๊อะไม่ว่ากัน เป็นเรื่องเฉพาะคนไป นิยมชมชอบแบบไหนก็เชิญตามที่ นิยมแหละ “……….. ก็ บอกว่าไม่กลัวถูกจับหรอกค่ะ คุกก็ติดอยู่บ่อยไปจะมาจับก็เชิญ พี่น้องเรามีให้จับแยะกลัวแต่คุกจะไม่พอจำขังแหละ ........ หากผลการประชุมของรัฐสภาออกมาว่าเราเสียดินแดนเราจะไม่ยอมเด็ดขาดจะสู้ กัน.............” เสียงหรี่เบาๆแว่วมาจากดอกลำโพงวิทยุในรถของคุณพี่แก ลำพัง ส่วนตัวผู้เขียนนี่ เน้นเอามากๆคือเรื่องการกินพืชผัก กินและกินมาเป็นประจำคงจะเพราะฐานวิถีถิ่นที่มาเป็นแบบแนวเดียวกันก๊ะคุณพี่แท๊กซี่ล่ะมั้งซึ่งก็ไม่ซีเรียสใดๆหรอกเพียงแต่เจออาหารประเภทพืชผักก็เป็นเลือกไว้ก่อน ---กินแล้ว----สบายท้องโล่งเบาตัว ---คล่องแคล่ว --เพราะเมื่อไหร่ถ้ากินจำพวกเนื้อสัตว์แล้วเทียบใส่กันกับพืชผัก ความเบาตัวท้องไส้จะต่างกันอย่างเป็นที่ประจักษ์ --แก่ตัวเองอยู่แล้ว “ไม่ต้องหรอกพี่ ...... ขอบคุณครับไปล่ะ” ขณะพี่แกเปิดเก๊ะพักแขนค้นๆเหรียญ หาเศษตังค์ “เอ้าววว ครับๆขอบคุณครับพี่ โชคดีครับๆ” เป็นที่เข้าใจกัน ร้อยสี่สิบบาท ไม่ต้องทอนกัน 137 บาทมิเตอร์บอกราคาเมื่อถึงเป้าหมายที่ลงรถ -----น่านนนนน ........ ว่าแล้วไหมล่ะ พอก้าวย่างลงประตูรถเท่านั้นแหละเจอเลยร้านการกินของคนชอบเนื้องัว “โคขุนโพนยางคำ”สุดยอดของเนื้องัวในยุคสมัยนี้ สุดยอดยี่ห้อเนื้องัวชั้นดีของโลก สำหรับ ผู้นิยมเนื้องัวโดยเฉพาะ สุดยอดผลิตภัณฑ์เนื้องัวจากแผ่นดินอีสานของประเทศไทยเรา ต้องยี่ห้อนี้แหละ"โพนยางคำ" แห่งเมืองสกลนคร สุดยอดของความอร่อที่ลงตัวในเรื่องงัวแซ่บ แต่ก็ราคาหนักเอาการอยู่ทีเดียว -----เดินย่ำต๊อกๆเข้าตรอกผ่านหมู่ทิวไม้ต้นหมากตากบ ส่วนตัวเรียกมันว่าหมากนมแมว หมากขนมลอดช่องก็เรียก แต่ ทั่วไปท่านก็เรียกลูกตะขบแหละ ไม้พันธุ์นี้เห็นมันเป็นร่มเงาตลอดวันยันรุ่งร้อนฝนหนาว เกิดมันไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศเกิดไวโตไวลูกสุกกินได้อร่อยดี นกสองตัวบินพรึบๆออกจากร่มเงาหมู่ต้นไม้ไปโดยไว ดึงๆ รั้งๆกิ่งตะขบที่มันแหลมยื่นออกมาเลาะเลียบริมซอยนี่ ลูกสุก กลมๆขนาดหัวแม่มือนี่สีแดงอมชมพูอวบเปล่งทีเดียวแต่ละลูกอร่อยดีแท้ หวานฉ่ำรสกลิ่นมันก็ แบบขนมลอดช่องแหละลองดูนะ เก็บๆใส่ถุงเอาไปฝากเพื่อนด้วย อร่อยไม่ต้องซื้อผลไม้---ประจำซอย

ไม่มีความคิดเห็น: