CHAAI RADIO


      
            

ท่านสมารถติดตาม ข่าวสั้นแบบ #ฉับพลันทันด่วน โดย ชาย ชัยภูมิได้ ทุกๆ 1 ชม. ทาง TV ดาวเทียม ตลอด 24 ชั่วโมง(สมาคมผู้สื่อข่าวอาชญากรรม การท่องเที่ยวและกีฬา).

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
<=กรุงเทพฯ,Thai <=อเมริกา, WashingtonDC <=รัสเซีย, Moscow <=เกียวโต,Japan

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

ไป / ( Go )

5 กุมภาพันธุ์ 2551

2000 น.
ก๊ะอีหรอบที่ว่าจะรู้คุณเกลือต่อเมื่อปลาเน่า(เหออ ๆ) จะเห็นคุณแมงขี้เกี้ยม(จิ้งจก)ก็ต่อเมื่อฝูงแมงเม่าขี้หมา มันบินว่อนชอนไชลอดหน้าต่างมุ้งลวดเข้ามาในห้องนอนนิ ............
ไปไหนกันหมดวู๊ยยย
ขี้เกี้ยมเหยยย?
เลยต้องดับไฟในห้องนอนปิดก่อนมันแยะจริงๆ

ปิดไฟใส่กลอน จะเข้ามุ้งนอนคิดถึงใบหน้า
นั่งเขียนจดหมายแล้วรีบทิ้งไปโรงงานทอผ้า
ถึงคนชื่อฉันทนา ที่เคยสบตากันเป็นประจำลายมือไม่ดี
ผมขอโทษทีเพราะความรู้ต่ำ
หากคำพูดใดไม่ถูกหัวใจหรือไม่ชื่นฉ่ำ
ขอจงยกโทษถ้อยคำที่ผมเพลี่ยงพล้ำบอกรักคุณมา

ฉันทนาที่รัก แต่งโดยสุชาติ เทียนทอง ร้องโดย รักชาติ


เป็นค่ำคืนที่เมื่อยขบไปตามเนื้อตัว ตึ๋งหนืดๆตามกล้ามลำต่างๆเพราะระบบมันตึงเครียดมาตลอดรายทาง นั่งรถในท่านั่งที่ขดคู้งอตัว มะฉะบายอยู่ท่าเดิมๆแหละ ตั้งห้าชั่วโมงดูเด๊ะ เย็นวานทำเอ็กส์เซอร์ไซด์เหงื่อไหลท่วมตัว แล้วเช้านี้เตรียมการณ์จัดเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางให้ตัวเอง โอเคทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินทาง ก็และจากการเดินทางด้วยรถที่อีตอนดูสภาพภายนอกเป็นรถทัวร์ แต่ครั้นพอเข้าไปภายในก็จะกลายสภาพเป็นรถถั่วๆไป ทำให้ได้ข้อคิดว่า จำเอาไว้อย่างนึงการเดินทางไป ตจว.นี่ถ้าจังหวัดไหนท่านมีรถตู้บริการควรไปใช้บริการเขาโล้ด(นี่ว่าสำหรับผู้ต้องการความเร็วที่เร็วกว่าระบบรถโดยสารด้วยล้อหมุนบนท้องถนนนะ แต่พวกใจเย็นแนะนำให้ไปพวกรถถั่วนี่) ก็มันตั้งห้าชั่วโมงคุณพี่ .......... ?
รถทัวร์ท่านก็คงจะตอบว่ามันก็วิ่งตามเวลาแล อื้ออออ ขณะที่รถตู้ท่านวิ่งสามชั่วโมง


ตายห่าแล่ววว ต้องเขียนต้องเขียนบันทึกเดี๋ยวจะลืมเรื่องสำคัญไป เลยลุกขึ้นเปิดไฟเขียนต่อ เอ้อต้องเขียนแลไม่เขียนเดี๋ยวไม่มีหลักฐานนำสืบในชั้นศาลเกิดอยู่ๆพรรคพวกยัดของ(หว่าง)กลางปึ๊ง .............. ! ให้ตายดิ๊ !? วัน เวลา ขณะนั้นตนตัวไปทำอ๊ะไหร๋ที่ไหนยังไง ....... ก๊ะใคร เมื่อไหร่ จะได้นำเรียนต่อหน้าองค์คณะท่านผู้พิจารณาได้อย่างชัดแจ้งแดงจ่ายหว่ายได้ไม่คลางแคลงต่อไป

แต่อ๊ะ ............ ไงเนี่ยะพวกเล่นมากันตรึมเลยอ่ะ ? แบบนี้ก็ได้เลย ต้องนี่เลยฟู่ .... ฟู่ ฟู่ ๆพ่นๆเข้า
พ่นออกนอกหน้าต่างนะมะช่ายพ่นเข้าห้อง สเปรย์กระป๋องเขียวปราบยุงและแมลงทุกชนิดคำโพนทนา
บอกสรรพโทษของเจ้ากระป๋องนี่ แต่ก็เพียงแค่แก้ขัดชั่วเวลาประเดี๋ยวประด๋าวงั้นแหละไม่จำเป็นสุดๆ
ก็ไม่ยอมหยิบมันหรอก พัดลมเปิดแรงๆเข้าไล่ฟู่ ลู่พัดออกไปนอกห้องโน่นโชคดีลมล่วงลู่ออกไปเต็มๆ
ฝูงหมู่แมลงร่วงกันกรูๆ ............ผมเปล่านา ผมจะทำงานน่ะ


ยังติดใจไม่หายจริงๆเธอชื่อ มลฤดี นามสกุลจำไม่ได้บ้านเธออยู่ราชบุรีก่อนโน๊นนนนนนน ......... เราทำงานโรงงานเดียวกัน(โรงพิมพ์)ตูข้าในฐานว่าเป็น หน.งานหรือโฟร์แมนก็มะรู้ จำเธอได้หน้าตา ............ แต่เอ๊ะมันจิ๊ช่ายยย มะช่ายย หนอ? ตอนนั้นตูข้าเป็นพนักงานใหม่เธอเป็นพนักงานเก๊าเก่าเรื่องงานพิมพ์
สูตรทางเคมี ส่วนผสมการทำงานต่างๆของระบบจัดการกระดาษ สิ่งพิมพ์ เธอบอกหมดก้อออ ทำแบบนี้ๆ และแบบนี้แล้วก็ได้งานออกมาเป๊ะๆ ใช่เลย อืออออ เธอเก่งและแม่นยำด้วยทำมานานเน ตูข้าเพียงเข้าไปควบคุมระบบที่คั่งค้างติดขัดชักช้าให้มันไปไวขึ้นเท่านั้นแหละ เทคนิคอันซับซ้อนในเนื้องานถามเธอมลฤดี รู้หมดแก้ไขได้

แต่ เอ ........... มันจิ๊ใช่หมัยน่ะ?มลฤดี อีตอนเธอขึ้นรถถั่วมาน่ะก็สดุดตาแล่ว ตอนเธอหาเบาะนั่งก็ดูเธอ ..... อือออ นานและหลายปี เค้าโครงหน้าเธอก็คล้ายๆนา รึจะถามจะทักเธอดีป่ะยังไง ........... ก็เอาน่า ถ้าเป็นเธอมลฤดีบ้านอยู่ราชบุรีนามสกุลจำมะด้ายย ผู้นั้นจริงก็โปรดทราบด้วยว่า หน.งานเก่าของเธอผู้นี้ยังรักและนับถือเธอเสมอ เธอเป็นผู้ช่วยทำงานที่ดีและขยันขันแข็ง ขอให้เธอและครอบครัวมีชีวิตที่เป็นสุขตามอัตภาพ ..... โปรดรับรู้จาก หน.งานผู้ชอบร้องเพลง คนเดิมคนนี้

และก็ด้วยวัฏฏะแห่งชีวิตของวัยที่ยังต้องเดินหน้าต่อไป เพราะตอนนั้นตูข้าวัยเอ๊าะๆปิ๊งๆอยุ่มากก็สะพายย่ามหิ้วถุงเดินทางชีวิตต่อไปตามจินตนาการ ยันวันนี้เพื่อนเอ๋ย


“ ยู ซี สมอลล์ ไอ ซิงกิ้ง ”
“ ………. ซี ....yeah … yeah ”
“ …. ยู แฮฟว์ เทเลโฟน? ”
“ …. Telephone ohh No ! ”
“ Telephone I don’t have ”
“ I don’t like telephone ”
“ เทเลโฟน ไอ ....... ยู ซี สมอลล์ ไอ ซิงกิ้ง ”
“ Ahh ….. telephone you ”
“ Ummm ………But but sometime I will use telephone sir ”
“ U singing singer ? ”
.......................
.......................
“ Ohh I like I like song ”
“ Yeah .... sir bye bye ”
“ U โก.....U โก มอต่ะไซค์ ”
...................................
...................................
...................................
“ U โก ทู ชะอำ? ”
“ Yeah Cha – am ”
“ โอ๊ะ ซิทดาวน์ด ๆ ……. โน๊นนนน ข้างหน้า ซิทดาวน์ด ๆ ”
เสียงสนทนา กระเป๋ารถก๊ะ อาเฮียฝรั่งที่ช่องทางลงประตูรถถั่วใจเย็น
“ แน๊ .......... ไปบอกฝรั่งยังไงเกือบเขาลงผิดที่แล้วหมัยล่ะ ”
“ ฮิ ๆก็นู๋ฟังเขาว่าลงที่นี่ ...... นี่คะ? ”
.............................
.............................
“ ร้องทุกวัน ป่ะ........? หมัย ไม่เคยเห็นหน้าน่ะ ? ”
“ ก็ นู๋เพิ่งไปร้อง อาทิตย์เดียวเองที่นี่ ไปอีกสี่ เจอแน่ ”
............................
............................
“ พี่อยู่บ้านเดียวก๊ะเจ้าของร้านนู๋ แหละ ”
“ นี่ถ้าไปตอนกลางคืนจะจำกันได้ป่ะ เนี่ยะ? ”
“ จำด้ายย ..... จำเสียงได้แน่ ๆ ”
เพลี๊ย .. เพลีย มะฉะบายกล้ามเนื้อค่ำคืนนี้ต้องหลับให้สนิท



6 กุมภาพันธุ์ 2551
2152 น.
โฮ๊ววววววววว ดูท่าพวก ต๋อชอด๋อ จะเป็งจีน กันโม๊ดดดดดดดด แล่วววว ............

เสียงประทัด(กระโพก,บ่ะท๊บ)ดังซะสนั่นนนน เชียว ....... ท๊างก๋องร่อยย เลยอ่ะ?

เดินเอา เหอออ ๆ ........... เดินๆโดย วนเข้าไปในย่านตลาดดูเป็นเงียบๆซาคนนะ ตามรายขอบถนน ริมฟุตบาธทางเดินมีเศษกระดาษแดงๆจากการระเบิด ของลูกไฟประทัดระเบิดเต็มแดงลานตาเป็นจุดๆขณะเดินย่ำไป หน้าร้านรวงมีการตั้งโต๊ะจัดวางเครื่องเซ่นไหว้บูชา น้อยใหญ่ตามใจ ............ ตามใจผู้เป็นเจ้าภาพ ใจนิดจัดน้อย ใจใหญ่จัดใหญ่ข้าวของเครื่องสำรับบวงสรวงตั้งแต่งหน้าร้านท่านเถ้าแก่

“ ขายยังไงครับคุณลุง ? ”
กล้วยปิ้งทับ ชุบน้ำเชื่อม
“ สี่ใบสิบบาท ”
“ ยิ่สิบบาทครับ ”
“ ดีนะ ทานกล้วยปิ้งสบายท้องดี อิ่มแทนข้าวได้เลย ”
“ .... แหละครับลุง ผมแทนข้าวได้จริงแหละ ”

คุณลุงแกจัดวางหวี และเครือกล้วย สุก ห่ามเป็นแถ๊วววข้างซุ้มกล้วยปิ้งของท่าน ยิ่สิบบาท
แกให้ตูข้าเก้าชิ้นขอบคุณครับ ขายกล้วยปิ้งเสร็จเรียบร้อยแล้วแกก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ
ตูข้าเดินย่ำต๊อกๆไปตามขอบไหล่ถนนต่อ
ฮือออออ คนหนอคน แม่น้ำทั้งสายยังสามารถหยั่งเสาตอม่อคอนกรีต รายเรียงตั้งขึ้นมาเป็นเสาค้ำสะพานเป็นถนนข้ามผ่านไปได้หนอ น้ำก็ไหลไปของมันรถก็วิ่งไป - มา ข้ามสายน้ำข้ามแม่น้ำ


เดินไปเหงื่อก็ไหลไป
“ แหนะ .....แนะๆ ....... แนะ แนะ มันปลิว อ่ะ! ”
อาม่วยหน้าใสใส่เสื้อไหมแดงคอจีน ผู้น้องสาววิ่งไล่ใช้มือกอบ หอบกันกระดาษติดไฟปลิวร่อนอยุ่ข้างๆริมฟุตบาธนั่น

“ ช่างมัน เฮอะปล่อยมัน …….. ”
“ ……………. ”
“ เดี่ยวมันดับเอง .......... ”
“ โห ............... เฮียก็ไฟนะเนี่ยะ! ”
อาม่วยหน้าใสใส่เสื้อแดงคอจีนผู้น้องสาวใช้มือปัดๆ กวักกระดาษไฟ วักขึ้นริมฟุตบาธหน้าร้านตัวเอง

ไกลเข้าไปในตลาดข้างหน้าเสียงลั่นสนั่นของสายประทัดระเบิดอยู่โดยต่อเนื่อง

ตูม ......ชะอุ๋ยยยย ..... !?
ยังก๊ะตูข้าเหยียบกับระเบิดของอริราชศัตรูผู้รุกรานอธิปไตย เหนือแดนดินอันเป็นที่หวงห่วงยิ่ง ............ อูยยยย !
ก็จะอันใดล่ะ ระเบิดประทัดฉลองงานเลี้ยงเซ่นไหว้ผีแหละเด๊ะ อันที่หลงเหลืออยู่นอกกระปี๊บพอมันเจอร้อนอังสีข้างผนังกระปี๊บน่ะ ร้อนได้ที่มันก็ ตุมมม ..... ! ปะเหมาะก๊ะอีตอน จอราชนคนเดินขาปัดอย่างตุข้าไปถึงพอดี โฮ๊ะ เฮียเอ๊ย อาม่วยเอ๊ย ใจหล่นตุบตั๊บ ! นึกว่าพวกเหล่าร้ายลอบพิฆาตปลิดปลงสังขาร

ฮือออออออ ขวัญเอ๊ย มามะเข้าร่างเข้ากาย
เดินต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น: